วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแก่งกระจาน อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอท่ายาง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี และมีลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ทะเลสาป น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม ทั้งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,821,875 ไร่ ได้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปิดการท่องเที่ยวและพักอาศัย (เฉพาะที่พักโซนที่ 3) ในเขตอุทยานแห่งชาติประจำปี (เฉพาะแค้มป์บ้านกร่าง และเขาพะเนินทุ่ง ) ในช่วงฤดูฝน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวดังนี้ คือ ปิดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคม ของทุกปี
ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศมีทั้งส่วนที่เป็นพื้นดินและส่วนที่เป็นอ่างเก็บน้ำ มีเนื้อที่ประมาณ 45 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ป่าเหนืออ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ติดต่อกันเป็นอาณาเขตกว้าง ยอดสูงสุดประมาณ 1,200 เมตร โดยเฉลี่ยสูงประมาณ 500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินแกรนิต บางแห่งเป็นเขาหินปูน ในหลายแห่งอุดมไปด้วยแร่ฟลูออไรน์ ปกคลุมด้วยป่าดิบชื้นเป็นส่วนใหญ่ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี
ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดิบชื้น จึงทำให้มีความชื้นสูง ส่วนใหญ่จะมีฝนตกชุก จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดปี ไม่ร้อนอบอ้าว
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้น คือ มีประมาณ 80% ของพื้นที่ และอีก 20% เป็น ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ทุ่งหญ้า ทั้งยังมีลักษณะเด่นในบางพื้นที่เป็นป่าเต็งรังผสมกับไม้สนซึ่งเป็นสนสองใบ ตามธรรมชาติ มีพรรณไม้มีค่าทางเศรษฐกิจหลายอย่าง เช่น ตะเคียนทอง ประดู่ มะค่า กฤษณา ฯลฯ มีสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง
สัตว์ป่ามีอยู่อย่างหนาแน่น ชุกชุมด้วยสัตว์ใหญ่ เช่น ช้างป่า โดยเฉพาะช้างที่เคยจับได้เป็นช้างเผือก ซึ่งราษฎรชาวจังหวัดเพชรบุรีได้น้อมเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปแล้วถึง 4 เชือก นอกจากนั้นสัตว์อื่นๆ ก็ยังมีอยู่หลายชนิด เช่น กระทิง เก้ง เสือ กวาง ค่าง ลิง ชะนี หมี และอื่น ๆ อีกมาก รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลาน นกชนิดต่าง ๆ และจระเข้น้ำจืดหรือจระเข้ตีนเป็ดในหนองน้ำลำห้วยต้นแม่น้ำเพชรบุรี

แหล่งท่องเที่ยว

การดูนก จุดที่น่าสนใจสำหรับการดูนกส่วนใหญ่อยู่ตามเส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง บริเวณ กม. ที่15 มีนกพญาปากกว้าง นกบั้งรอก นกหัวขวาน นกแต้วแล้ว และนกเงือกหลายชนิด ช่วง กม. ที่ 26-29 มีนกเสือแมลงหัวขาว นกกะรางหัวหงอก โดยเฉพาะนกกะลิงเขียดหางหนาม ซึ่งมักหากินรวมฝูงอยู่กับนกระวังไพรปากแดงสั้น จากบริเวณนี้เป็นต้นไปสามารถพบนกทางภาคเหนือ เช่น นกปรอดหัวตาขาว นกเสือแมลงปีกแดง นกกะลิงเขียดสีเทา ฯลฯ

การดูผีเสื้อ จุดที่น่าสนใจสำหรับการดูผีเสื้ออยู่บนเส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง โดยเริ่มตั้งแต่ กม. ที่ 10 เป็นต้นไป จะพบผีเสื้อตามสองข้างทาง บริเวณแอ่งน้ำมีผีเสื้อหนอนจำปีจุดแยก ผีเสื้อสะพายฟ้า ผีเสื้อวาวสีต่างฤดู ตามพุ่มไม้มีผีเสื้อกะลาสีธรรมดา ผีเสื้อสีตาลจุดตาห้า ผีเสื้อช่างร่อน ตามกองมูลสัตว์มีผีเสื้อเหลืองหนามธรรมดา ผีเสื้อตาลหนามใหญ่ จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ. 4 (บ้านกร่าง) อาจพบผีเสื้อหางติ่งสะพายเขียวซึ่งเป็นผีเสื้อหายากชนิดหนึ่ง กิจกรรม : - ดูผีเสื้อ

เขาพะเนินทุ่ง
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 50 กิโลเมตร เป็นเขาที่สูงประมาณ 1,207 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงมีความหนาวเย็นตลอดปี บนยอดเขาปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าและไม้ต้นเล็กๆ ประกอบด้วยทิวทัศน์ที่งดงามทั้งยามปกติ และยามมีทะเลหมอกในช่วงปลายฤดูฝนและต้นฤดูฝนหนาวที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง การเดินเท้าขึ้นยอดเขาพะเนินทุ่งมี 2 เส้นทาง เส้นทางแรกเริ่มจาก กม. ที่ 27.5 ของเส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง โดยเดินข้ามลำธารหลายสายก่อนขึ้นถึงยอดเขา ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง อีกเส้นทางหนึ่งเริ่มจากบริเวณ กม. ที่ 30 ของเส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง ใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง แต่ต้องข้ามเนินเขาหลายลูก ผู้สนใจต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่ช่วยนำทาง
เนื่องจากเส้นทางบ้านกร่าง-เขาพะเนินทุ่ง เป็นเส้นทางที่ลาดชัน บางช่วงแคบ ผ่านหน้าผา อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจึงกำหนดเวลาขึ้น-ลงสำหรับรถยนต์ที่ใช้เส้นทางนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ดังนี้
รอบที่ 1. เวลาขึ้นจากบ้านกร่าง 05.30 - 08.00 น. เวลาลงจากพะเนินทุ่ง 10.00 - 12.00 น.
รอบที่ 2. เวลาขึ้นจากบ้านกร่าง 13.00 - 15.00 น. เวลาลงจากพะเนินทุ่ง 16.00 - 17.00 น. ซึ่งในช่วงฤดูฝน การท่องเที่ยวและพักแรมบริเวณบ้านกร่าง-เขาพะเนินทุ่ง ไม่สะดวกอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยว และก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติสูง จึงมีกำหนดปิดการท่องเที่ยวและพักแรม เฉพาะบริเวณบ้านกร่างและเขาพะเนินทุ่ง ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และเปิดโอกาสให้ธรรมชาติได้มีโอกาสฟื้นตัว กิจกรรม : - ชมพรรณไม้ - แคมป์ปิ้ง - ชมทิวทัศน - ดูดาว - ดูนก - เดินป่าระยะไกล


จุดชมทะเลหมอก กม.36 สามารถชมทะเลหมอกได้เกือบตลอดปี จุดชมวิวนี้อยู่บริเวณ กม.ที่ 36 ของเส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง ก่อนถึงทางลงสู่น้ำตกทอทิพย์ ในยามเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกสีขาวปกคลุมทั่วหุบเขา เมื่อทะเลหมอกสลายตัวไปแล้วจะมองเห็นผืนป่าดงดิบเบื้องล่างเบียดตัวกันแน่นท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตา บางครั้งอาจพบนกกกและนกเงือกกรามช้างบินอยู่เหนือผืนป่า การเดินทางขึ้นสู่จุดชมทะเลหมอกใช้เส้นทางขึ้นเขาที่มีกำหนดเวลาแน่นอนในการขับรถยนต์ขึ้นเขาและลงเขา ต้องกางเต็นท์พักแรมที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว (พะเนินทุ่ง) บริเวณ กม.30 เพื่อตื่นขึ้นมาชมทะเลหมอกในยามเช้า กิจกรรม : - ชมทิวทัศน


ชมความงามริมทางสายวังวน-น้ำตกทอทิพย์
เป็นเส้นทางเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติประมาณ 34.5 กิโลเมตร ระหว่างทางสามารถชมทิวทัศน์ได้ตลอดสายเห็นภูเขา ทะเลหมอก ป่าเขียวขจี และพบเห็นสัตว์นานาชนิด กิจกรรม : - ชมทิวทัศน - ดูนก - เดินป่าศึกษาธรรมชาติ

ชมความงามสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำบางกลอย
มีทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำสวยงามตลอดสาย หากมีการล่องแพก็สามารถเห็นความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และสัตว์ป่านานาชนิด กิจกรรม : - ล่องแพ/ล่องเรือ

ถ้ำค้างคาว
มีหลืบหินและปล่องถ้ำสวยงามระหว่างการเดินทางเข้าถ้ำ สามารถชมทิวทัศน์ของป่าและภูเขาได้ กิจกรรม : - เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา

ถ้ำวิมาน
มีหินงอกหินย้อยสวยงาม อากาศเย็นสบาย ภายในถ้ำพบร่องรอยของมนุษย์โบราณ เช่น เศษกระเบื้อง และขวานหินใกล้ถ้ำ บริเวณใกล้ถ้ำมีน้ำตกห้วยปลาก้าง มีความสูง 3 ชั้น กิจกรรม : - เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา

ถ้ำหัวช้าง
อยู่ตรงบริเวณเทือกเขาสามยอด และบริเวณถ้ำวิมาน มีหินงอก หินย้อย ซึ่งธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้อย่างสวยงามยิ่ง ภายในถ้ำยังมีหลักฐานและร่องรอยของมนุษย์โบราณ กิจกรรม : - เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา


ทะเลสาปอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน
เนื้อที่ประมาณ 46.5 ตารางกิโลเมตร (26,325 ไร่) เกิดจากการสร้างเขื่อนดินปิด 3 ช่องทางระหว่างหุบเขา ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมแก่งน้ำเดิม เป็นพื้นน้ำอาณาเขตกว้างขวางจากยอดเขาเนินเขาหลากเป็นเกาะโผล่พ้นน้ำถึง 30-40 เกาะ ก่อให้เกิดทิวทัศน์งดงามยิ่งเหมาะสำหรับการนั่งเรือชมทัศนียภาพและชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สันเขาตะนาวศรี กิจกรรม : - แคมป์ปิ้ง - ล่องแพ/ล่องเรือ - ดูผีเสื้อ


น้ำตกกระดังลา
อยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ท้องที่อำเภอหนองหญ้าปล้อง มีความสูง 3 ชั้น กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก

น้ำตกชลนาฎ
มีความสูง 3 ชั้น เป็นน้ำตกที่มีผาน้ำตกสูงที่สุดของน้ำตกในเขตอุทยานห่งชาติแก่งกระจาน สูงประมาณ 150-200 เมตร อยู่ใกล้เคียงกับน้ำตกป่าละอู อยู่ในท้องที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก


น้ำตกทอทิพย์
อยู่ห่างจากยอดเขาพะเนินทุ่งประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งสามารถจะเดินทางไปชมโดยทางรถยนต์ ตัวน้ำตกมีถึง 18 ชั้น นอกจากนี้ในบริเวณพื้นที่อันเป็นพื้นต้นน้ำมีลำธารที่งดงาม ของแม่น้ำเพชรบุรี และในบริเวณส่วนนี้ยังประกอบด้วยจุดที่น่าสนใจอีกหลายอย่างทั้งน้ำตกอื่น ๆ เช่น น้ำตกปราณบุรี (น้ำตกธารทิพย์หรือน้ำตก 5 ชั้น) น้ำตกแม่เสลียง น้ำพุร้อน เป็นที่มหัศจรรย์ยิ่งในความงามของธรรมชาติของป่าดิบชื้นอันประกอบด้วย ดงไม้งามสูงใหญ่เป็นมนต์ขลังของป่าใหญ่ กิจกรรม : - เดินป่าศึกษาธรรมชาติ - เที่ยวน้ำตก

น้ำตกธารทิพย์
มีความสูง 7 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปีอยู่ใกล้กับน้ำตกทอทิพย์และน้ำตกหินลาด กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก

น้ำตกปรานบุรี
มีความสูง 3 ชั้น อยู่ใกล้กับเส้นทางสายวังวน-น้ำตกทอทิพย์ (บริเวณ กม. 23) มีน้ำไหลตลอดปี กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก

น้ำตกป่าละอู
อยู่ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในท้องที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความสูง 16 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี ปัจจุบันได้พัฒนาบ้างแล้ว ประชาชนนิยมไปท่องเที่ยวกันมาก กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก

น้ำตกแม่สะเลียงหรือน้ำตกเสลียง
มีความสูง 3 ชั้น น้ำไหลตลอดปี อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 34 กม. ถึงทางแยกตรง กม. 27 แล้วเดินทางไปทางทิศตะวันตกอีก 5 กม. เหมาะแก่การท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งและเดินป่า กิจกรรม : - เดินป่าระยะไกล - แคมป์ปิ้ง - เที่ยวน้ำตก

น้ำตกห้วยป่าเลา
มีทั้งหมด 7 ชั้น อยู่ใกล้เคียงกับน้ำตกป่าละอู อยู่ในท้องที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก


น้ำตกหัวป่าเงา
อยู่ทางด้านใต้ของพื้นที่มีน้ำตกใหญ่น้อยมากมาย รวมเป็นกลุ่มได้ถึง 4 กลุ่ม มีเส้นทางเข้าถึงสะดวก อยู่ในท้องที่ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขตติดต่อกับโครงการพระราชดำริห้วยสัตว์ใหญ่ กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก

น้ำตกหินลาด
มีความสูง 5 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปีอยู่ใกล้กับน้ำตกทอทิพย์และน้ำตกธารทิพย์ กิจกรรม : - เที่ยวน้ำตก

ผสามารถชมได้จากริมชายฝั่งลำน้ำเพชรบุรี หากมีการท่องเที่ยวโดยการล่องแก่ง แม่น้ำเพชรบุรี มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลหยดลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีอยู่ตลอดเวลา ในฤดูฝน น้ำจะหยดเป็นสาย ก่อให้เกิดแผงมอสคลุมเขียวไปทั้งหน้าผา กิจกรรม : - ล่องแพ/ล่องเรือ - ชมทิวทัศน
ผาน้ำหยด

ลานหนุมานหรือเขาประการัง
ลักษณะของภูเขาเป็นหินที่มีรูปร่างลักษณะแปลกตาคล้ายประการัง บริเวณนี้มีลิง ค่างและชะนี เป็นจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง กิจกรรม : - เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา - ชมทิวทัศน - ดูนก - ดูผีเสื้อ

สถานที่ติดต่อและการเดินทาง
สถานที่ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานต.แก่งกระจาน,อ. แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี 76170

การเดินทาง
รถยนต์

ไปตามเส้นทางเพชรเกษมมุ่งลงใต้ผ่านอำเภอท่ายาง ถึงสี่แยกเขื่อนเพชร ระยะทางราว 20 กิโลเมตร แยกขวาเข้าไปตามเส้นทางไปเขื่อนเพชร ตามทางลาดยางลึกเข้าไปอีกประมาณ 38 กิโลเมตร ผ่านบ้านช่อง ผ่านเข้าสู่บริเวณเขตเขื่อนดินแก่งกระจานเลียบตามถนนลาดยางขอบอ่าง จากตัวเขื่อนอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
บริการด้านการขนส่ง
เช่ารถตู้
บริการเพื่ออำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งการเช่านี้เป็นการเช่ารถพร้อมคนขับโดยไม่รวมค่าน้ำมัน และค่าธรรมเนียมผ่านทางต่างๆ
เช่าเรือ
บริการให้เช่าเรือแก่ผู้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน และสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล
บริการรับ-ส่ง
บริการรับ-ส่ง ให้แก่ผู้ที่จะเดินทางไป-กลับระหว่างสนามบิน/สถานีขนส่ง/ท่าเรือ/สถานที่พักกับอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน และ/หรือ สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ
ตั๋วโดยสาร
บริการจองตั๋วโดยสารเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน และ/หรือ สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งทางเครื่องบิน รถโดยสาร รถไฟ และเรือ
ค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ผู้ใหญ่ คนละ 20-80 บาท (ขึ้นอยู่กับอุทยานฯ)
เด็ก คนละ 10-40 บาท (ขึ้นอยู่กับอุทยานฯ)
กรณีเป็นเด็กอายุต้องต่ำกว่า 14 ปี แต่ถ้าอายุต่ำกว่า 3 ปี จักไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม
กรณีเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้เก็บค่าธรรมเนียมในอัตราสำหรับเด็ก รถจักรยาน 10 บาท/คัน
รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน
รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท/คัน
รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท/คัน
รถยนต์ไม่เกิน 10 ล้อ 200 บาท/คัน-->



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น